Apa itu ekonomi cukup dan mengapa kita perlu memahaminya

Asal Usul dan Makna Inti

แนวคิด เศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) Tidaklah merupakan gagasan baru yang baru saja diajukan saat ini, tetapi merupakan filosofi yang telah tertulis dan dipromosikan sejak tahun 2517 oleh พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ 9 ผ่านพระราชดำรัสที่เน้นการพัฒนาประเทศบนรากฐานความมั่นคง

ความหมายของ เศรษฐกิจพอเพียง ตามนิยามพื้นฐาน คือ การดำรงชีวิตโดยยึดหลักทางสายกลาง ซึ่งประชาชนทุกระดับชั้น ตั้งแต่ครัวเรือน ชุมชน ไปจนถึงภาครัฐ สามารถพึ่งพาตนเองได้ด้วยความพอประมาณ ไม่เดือดร้อนผู้อื่น และมีภูมิคุ้มกันพอสมควรต่อการเปลี่ยนแปลง ความจำเป็นนี้เกิดจากความรู้ที่หลากหลายและคุณธรรมที่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง

แก่นประกอบของเศรษฐกิจพอเพียง:3 ห่วง 2 เงื่อนไข

กรอบแนวคิดหลักของ เศรษฐกิจพอเพียง นั้นถูกสร้างขึ้นจากความสมดุลของสามองค์ประกอบสำคัญ ร่วมกับเงื่อนไขสองประการที่เป็นรากฐานทางปัญญา

3 ห่วง - รากฐานของการดำเนินชีวิต

ความพอประมาณ ไม่ได้หมายถึงการใช้ชีวิตอย่างขาดแคลน แต่เป็นการปรับสมดุลระหว่างรายได้และการใช้จ่าย หนึ่งคนต้องสร้างรายได้ด้วยวิธีสุจริต โดยไม่บีบบังคับใครและไม่คดโกง ในเรื่องการใช้จ่ายก็ต้องให้สอดคล้องกับฐานะของตน ไม่ฟุ่มเฟือยจนต้องออกหนี้ เพียงแต่ใช้อย่างเหมาะสม

ความมีเหตุผล นำเสนอความสำคัญของการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งก่อนตัดสินใจลงมือทำ เมื่อต้องการเริ่มธุรกิจ ต้องเข้าใจศักยภาพตัวเองก่อน วางแผนอย่างรอบคอบ พิจารณาผลกระทบในอนาคต อย่าตัดสินใจด้วยอารมณ์หรือการฟังที่ว่าๆ มาจากคนอื่น

ระบบภูมิคุ้มกัน หมายถึงความพร้อมในการรับมือกับวิกฤตและความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตทางเศรษฐกิจ สภาพอากาศ หรือการเปลี่ยนแปลงตลาด ตัวเราต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการได้ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

2 เงื่อนไข - เสาสนับสนุน

ความรู้ ประกอบด้วยความรู้ทางศาสตร์ ประสบการณ์ส่วนตัว และการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ การมีความรู้ครบครันช่วยให้คนเราสามารถนำมาปรับใช้ในการวางแผน แก้ไขปัญหา และรับมือกับความเสี่ยง ทั้งนี้ความรู้ไม่ได้จำกัดว่าต้องมาจากการศึกษาทางการเท่านั้น ประสบการณ์จริงมีค่าพอๆ กัน

คุณธรรม เป็นตัวจริงที่กำหนดว่าเราจะใช้ความรู้นั้นไปในทางใด การทำงานหรือประกอบการโดยสุจริต ขยัน ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เป็นตัวอย่างที่สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจหรือกิจการยั่งยืนไปได้นาน มิใช่ความได้กำไรชั่วคราวที่สุดท้ายต้องพังทลายลง

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นสารแก้ยา

ก่อนที่จะเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 ประเทศไทยกำลังดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจแบบสูบนรี ลงทุนหนักในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเปลี่ยนประเทศให้เป็นประเทศอุตสาหกรรม เงินส่วนใหญ่มาจากการกู้ยืมต่างประเทศ แล้วต้องชำระหนี้ด้วยการส่งออก

ผลของแนวทางนี้ ด้านบวก คือ เศรษฐกิจเติบโตรวดเร็ว ด้านลบ คือ สิ่งแวดล้อมเสื่อม ปนาท้องถิ่นต้องกู้ยืมเพื่อรักษาธุรกิจ และช่องว่างระหว่างรวย-จน ยิ่งเพิ่มขึ้น

ดังนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงเน้นว่า “…ไม่สำคัญว่าจะเป็นเสือ สำคัญว่าเรามีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน ผลิตอาหารของตนเองอาจเกินไป แต่ในหมู่บ้านหรืออำเภอต้องมีความพอเพียง บางสิ่งผลิตได้มากกว่าความต้องการก็ขายได้ แต่ไม่ต้องเสียค่าขนส่งไกลนัก…” หนึ่งปีต่อมา วิกฤตทำให้คนตระหนักถึงความสำคัญของคำพูดนี้ และเริ่มนำหลักการดังกล่าวมาปรับใช้อย่างมากมาย

ประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในตัวอย่างจริง

ในโลกธุรกิจและอุตสาหกรรม

การนำ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข มาใช้กับธุรกิจ หมายความว่า:

  • เลือกใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยีที่ประหยัด แต่ให้ผลลัพธ์คุณภาพสูง
  • ขนาดการผลิตต้องสอดคล้องกับความสามารถในการบริหาร ไม่ต้องขยายเกินตัว
  • กระจายความเสี่ยง มิใช่เอกสิทธิ์ในตลาดเดียว เพราะตลาดเปลี่ยนแปลง
  • ผลกำไร ต้องเป็นระยะยาว ไม่ใช่ชั่วคราว
  • บริหารจัดการต้องสุจริต ไม่เบียดเบียนพนักงาน ลูกค้า หรือซัพพลายเยอร์

ในภาคการเกษตร

เกษตรผสมผสาน เป็นตัวอย่างชัดเจนของการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ครอบครัวเกษตรกรนั้นทำนา ปลูกผัก เลี้ยงเป็ด ขุดสระเลี้ยงปลา ไม่ใช่อาชีพเดียว ดังนั้นเมื่อน้ำแล้งปลูกข้าวไม่ได้ เรายังมีผัก และเมื่อโรคระบาดพืช เรายังมีรายได้จากสัตว์

นอกจากนี้ เกษตรทฤษฎีใหม่ ยังแบ่งที่ดินออกเป็นส่วนๆ ตามหลักการคณิตศาสตร์ เพื่อสูงสุดประสิทธิภาพ ขั้นสูงสุดก็คือการจัดตั้งสหกรณ์เกษตรกร รวมกลุ่มเพื่อต่อรองราคากับพ่อค้าคนกลาง หรือขายตรงสู่ผู้บริโภค

วิธีการนำ เศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

สำหรับบุคคลและครอบครัว:

  • เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง พัฒนาทักษะการประกอบอาชีพ
  • ทำงานด้วยความขยัน และความอดทน
  • เลือกอาชีพที่สุจริต ไม่คดโกง ไม่เบียดเบียน
  • สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว อย่าตกเป็นทาสของงาน
  • ออม วางแผนการเงิน ทั้งปัจจุบันและอนาคต
  • ใช้จ่ายด้วยสติ ตามสถานภาพและหน้าที่ของตน ไม่ฟุ่มเฟือยหรือขี้เหนียว
  • ก่อนตัดสินใจสิ่งใด ต้องหาข้อมูล วางแผน และพิจารณาผลกระทบ

สรุป

เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นฟิลโลโซฟี่ชีวิตที่ช่วยให้คน องค์กร และชาติสามารถยืนหยัดอยู่ได้เมื่อมีวิกฤต ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเกษตรกรรมตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ต้องการให้ส่วนหนึ่งของประชาชนทำเกษตรอย่างยั่งยืนตามหลักนี้

สิ่งที่ควรจำ คือ หลักการพอเพียงนี้ไม่จำกัดเพียงแต่เกษตรกรรม แต่สามารถขยายไปยังภาคการเงิน อุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ และการค้าการลงทุนนานาชาติ ไม่สำคัญว่าจะประกอบอาชีพใด สิ่งสำคัญคือยึดหลักทางสายกลาง คิดก่อนทำ ตัดสินใจด้วยเหตุผลและคุณธรรม แล้วความสำเร็จจะตามมาเอง

Lihat Asli
Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
  • Hadiah
  • Komentar
  • Posting ulang
  • Bagikan
Komentar
0/400
Tidak ada komentar
  • Sematkan

Perdagangkan Kripto Di Mana Saja Kapan Saja
qrCode
Pindai untuk mengunduh aplikasi Gate
Komunitas
Bahasa Indonesia
  • 简体中文
  • English
  • Tiếng Việt
  • 繁體中文
  • Español
  • Русский
  • Français (Afrique)
  • Português (Portugal)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • بالعربية
  • Українська
  • Português (Brasil)